การที่ทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นด้านบนได้แล้วยังติดอยู่กับระดับทางจิตวิทยาที่สำคัญที่ 1,300เหรียญต่อออนซ์ ทำให้เกิดทางเลือกอีกมากมายเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของหลักทรัพย์ สำหรับ"แนวโน้มขาลง" ได้แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของการเก็งกำไรในคู่ออนซ์ทองคำกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU / USD) ทำให้ดึงความสนใจไปในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา, การป้องกันความเสี่ยงของเงินทุนและนักลงุทนคนอื่นก็ได้เพิ่มสถานะการซื้อสุทธิในโลหะมีมูลค่าในCOMEX ของนิวยอร์กในระดับที่ 474 ตัน หรือเป็นเงิน 19.3พันล้านเหรียญ ขณะที่หุ้นของดัชนี ETF ได้ลดลงไป 35ตัน โดยปกติแล้วทั้งสองตัวบ่งชี้จะไปในทิศทางเดียวกันแล้วยืนยันถึงความแข็งแรงของแนวโน้ม

ทางด้าน ABN AMRO เชื่อว่าในปลายภาคหน้านั้นราคาจะเริ่มปรับตัวลงไปหาระดับด้านล่างที่ 1200-1300 เหรียญต่อออนซ์ซึ่งเป็นเรื่องดีที่เกิดจากตัวกระตุ้นทั้งสามตัวก็คือ อย่างแรง ตัวเลขสถิติทางเศรษฐกิจมหภาคจากสหรัฐอเมริกาที่ได้สนับสนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างที่สองก็คือความเป็นไปได้ในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริากสำหรับกองทุนในปี 2017 และสุดท้ายก็คือการกระจายความเสี่ยงต่อสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศเกาหลีเหนือ

คุณ Merrill Lynch ในทางตรงกันข้ามกลับเชื่อว่าทองคำอาจจะสามารถปรับตัวขึ้นในราวๆ 1,400เหรียญต่อออนซ์เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้ การที่นาย Donald Trump และทีมงานของเขาไม่สามารถดำเนินการการปฏิรูปทางเศรษฐกิจได้อย่างสำเร็จลุล่วง, การเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงจากการปรับระดับของดัชนีหุ้ยในสหรัฐอเมริกาและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำในพันธบัตรรัฐบาลอเมริการะยะยาว ดังนั้นแล้วการปรับระดับจากจุดนี้พร้อมกับโลหะมีมูลค่าได้กระตุ้นให้ "แนวโน้มขาขึ้น" ในคู่ออนซ์ทองคำกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU / USD)อาจปรับตัวขึ้นมาได้

การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาและราคาทองคำ

แหล่งที่มา: Bloomberg.

คุณ Merrill Lynch ยังได้ชี้ให้เห็นถึงการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรท่ามกลางการฟื้นฟูตัวของเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งมันทำให้เกิดแรงกดดันต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ดังนั้นแล้วข้อโต้แย้งของพรรคตรงข้ามเป็นที่เห็นได้ชัด สำหรับการเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของคู่ออนซ์ทองคำกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU / USD)อาจจะขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่จะมีส่วนเข้ามาเติมเต็ม สำหรับกองทุนป้องกันความเสี่ยงก็ได้ทำการเพิ่มสถานการซื้อในโลหะมีมูลค่าในระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยเชื่อในแนวโน้มขาขึ้นขณะที่นักลงทุนบางคนในดัชนี ETF ต้องการความคิดเห็นที่มีความระมัดระวังอยู่

ในทางเลือของฉัน สำหรับการปรับระดับส่วนลึกในดัชนี S&P 500 อาจจะไม่เกิดขึ้น อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญของ Bloomberg ที่ออกมาระบุว่าเศรษฐกิจในระดับโลกจะปรับตัวขึ้นมาจากร้อยละ 3. 1 เป็นร้อยละ 3.4 ในปี 2017 ซึ่งมันจะช่วยให้บริษัทหลายแห่งทำผลกำไรไม่เพียงแค่สกุลเงินดอลลาร์แต่จากอุปสงค์ของทั้งในและนอกประเทศ นอกจากนั้นธนาคารกลางยังไม่ทำการลดตลาดลงจากสภาพคล่องที่ต่ำ โดยที่ธนาคารกลางแห่งยุโรปอย่างที่แน่นอนว่าจะเพิ่มการใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคล่องจนถึงปี 2018 และธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่นก็จะทำการซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้น แต่ทางธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาจะทำการลดงบดุลลงไปอย่างแน่นอน

ทางการเมืองจะพบได้ว่าปัจจัยระยะยาว แต่แน่นอนว่ามาจากกรณีที่ยุติการเคลื่อนไหวทางการทหารลงไป บางคนได้เชื่อว่าการเริ่มต้นทางเทคนิคของสหรัฐอเมริกาและเวลาสำหรับทีมงานของประธานาธิบดีในการสังเกตให้เห็นอย่างน้อยในการประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามการสัญญาหาเสียง สำหรับความพยายามต่างๆได้ผลักดันให้ดูว่ามีประสิทธิภาพของคู่ออนซ์ทองคำกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU / USD) ดูค่อนข้างถูกจำกัดระดับ

ทางเทคนิคแล้วการทิ้งตัวลงของค่าอ้างอิงที่ลงไปต่ำกว่าแนวรับที่ 1,280เหรียญต่อออนซ์จะช่วยให้ทางตลาดได้หารือเกี่ยวกับการใช้งานบริษัทลูกและบริษัทแม่ สำหรับ "การเคลื่อนไหวแบบสามทิศทาง" โดยที่การร่วมมือกันนั้นเป็นการหารือกันอย่างจริงจังเพราะที่จะให้เกิดการปรับตัวไปหาแนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบัน

ตารางรายวันของทองคำ