ไม่สำคัญว่า คู่สกุลเงิน EUR/USD จะตัดสินใจเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ มันจะไม่ไปถึงจุดมุ่งหมายอย่างรวดเร็วนัก ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2022 ยูโรติดอยู่ในช่วงการซื้อขายที่ $1.05-1.10 โดยมีการแกว่งตัวเนื่องจากความแตกต่างในอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และยูโรโซน และนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่าง Fed และ ECB ในปี 2024 มีความไม่แน่นอนอีกอย่างเพิ่มเข้ามา – ด้านการเมือง พรรค Democrats ไม่ต้องการให้ Donald Trump กลับเข้ามาสู่ตำแหน่งอำนาจอีก และ Emmanuel Macron และพรรคพวกของเขาไม่ต้องการให้ National Rally เข้ามาควบคุม

ฝ่ายขวาได้รับคะแนนเสียง 33% ในรอบแรก และพรรค Republican ทำได้ดีกว่า Joe Biden ที่อ่อนแรงในการโต้วาที ในขณะที่ปฏิกิริยาเริ่มแรกของดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อการทะเลาะเบาะแว้งเชิงวาจาระหว่างอดีตและปัจจุบันประธานาธิบดีคือการเพิ่มขึ้น แต่ไม่นานก็ถึงเวลาของนักลงทุนขาขึ้นของ EUR/USD ราคาคู่นี้พุ่งขึ้นไปถึงระดับสูงสุดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน โดยได้รับแรงขับจากการแคบลงของส่วนต่างอัตราผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรฝรั่งเศสและเยอรมนี แต่แล้วความเป็นจริงก็เข้ามา

พลวัตของส่วนต่างอัตราผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรฝรั่งเศสและเยอรมนี

ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังไม่ได้หายไปไหน แนวร่วมประชาชนใหม่และแนวฟื้นฟูจะพยายามหาทางประนีประนอมเพื่อป้องกันไม่ให้ชาตินิยมแนวหน้าเข้าไปครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ สถานการณ์ต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้ อาจจะมีทั้งรัฐบาลฝ่ายขวาหรือรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน หนึ่งในสิ่งที่ชัดเจนคือการดีดตัวของ EUR/USD ดูเหมือนจะเกิดขึ้นก่อนเวลาเช่นเคย ตลาดมักจะพุ่งขึ้นก่อนแล้วค่อยหาสาเหตุในภายหลัง

การเมืองอเมริกันก็ซับซ้อนไม่แพ้กัน ความไร้พลังของ Joe Biden ทำให้มีข่าวลือว่าพรรคเดโมแครตอาจจะต้องเปลี่ยนผู้สมัครก่อนการเลือกตั้ง นี่เพิ่มโอกาสให้ Donald Trump ชนะ ซึ่งนโยบายการปกป้องทางเศรษฐกิจของเขาอาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นและบีบบังคับให้ Fed ต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สถานการณ์นี้เป็นผลดีสำหรับผู้ที่คาดว่าอัตรา EUR/USD จะลดลง

การกลับมาของพรรครีพับลิกันทำให้ธุรกิจ Wall Street และแม้กระทั่ง Federal Reserve รู้สึกกังวล Jerome Powell คงจำได้ว่าอดีตประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาเคยเรียกเขาว่าศัตรูอันดับหนึ่งของอเมริกา ธนาคารกลางอาจต้องการสนับสนุนพรรคเดโมแครตโดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนก็เป็นได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น เครื่องหมายใดๆ ที่แสดงถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจอเมริกันน้อยที่สุดก็สามารถเปลี่ยนแปลงสำนวนของเจ้าหน้าที่ FOMC จากแนวกลางเป็นแนวผ่อนคลายได้ ทำให้ดอลลาร์สหรัฐมีแรงกดดัน

สัญญาณที่แข็งแกร่งมากอาจเป็นการชะลอตัวของอัตราการเติบโตของการจ้างงานในอเมริกาสำหรับเดือนมิถุนายน เมื่อการออมของครัวเรือนส่วนเกินที่สะสมในช่วงการระบาดโรคหมดไป ผู้คนจะมีตัวเลือกเดียวเท่านั้น - ต้องทำงาน การลดลงอย่างรวดเร็วของจำนวนตำแหน่งงานเปิดเผยถึงปัญหาในตลาดแรงงานและเศรษฐกิจโดยรวม

ในทางเทคนิค บนกราฟรายวันของ EUR/USD การทะลุเส้นขอบบนของขอบเขตการรวมตัวที่ 1.067–1.072 อนุญาตให้มีการสร้างตำแหน่งยาวชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ความยินดีของฝั่ง Bull กลับอยู่ได้ไม่นาน เหตุการณ์อาจพัฒนาไปตามสถานการณ์ของพวกเขา แต่การสร้าง pin bar ก็อาจเป็นไปได้ ในกรณีนี้ จำเป็นต้องพิจารณาการพลิกกลับจากระดับต่ำของมันใกล้ 1.072 หรือจากกลางช่องทางก่อนหน้า