สัปดาห์นี้ ยูโรได้รับความสนใจอย่างมาก รายงานเศรษฐกิจมหภาคที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้จากยุโรปทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นไปในทิศทางที่สนับสนุนสกุลเงินเดียวนี้ ตัวชี้วัดสำคัญ เช่น การเติบโตของ GDP ข้อมูลตลาดแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อ ต่างก็แข็งแกร่งเกินคาด ทำให้คู่เงินนี้ขยับเข้ามาใกล้ระดับ 1.0900 โดยมีจุดสูงสุดล่าสุดอยู่ที่ 1.0889

ตัวอย่างเช่น อัตราการว่างงานในเขตยูโรโซนลดลงถึงระดับต่ำสุดที่ 6.3% ในเดือนกันยายน GDP ของเขตยูโรโซนเติบโต 0.4% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาสที่ 3 สูงเกินคาดการณ์ที่ว่าจะเติบโตเพียง 0.2% นับเป็นอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ในแง่ประจำปี GDP เติบโต 0.9% (คาดการณ์: 0.8%) ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี 2023

อัตราเงินเฟ้อได้สนับสนุนเงินยูโรด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น CPI หลักของเยอรมันได้เร่งตัวขึ้นเป็น 2.0% y/y โดยดัชนีฮาร์โมไนซ์ได้เพิ่มขึ้นถึง 2.4% ข้อมูลทั่วทั้งยูโรโซนก็ไปในทางเดียวกัน โดยที่ CPI โดยรวมได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.0% (คาดการณ์: 1.9%) และ CPI หลักยังคงอยู่ที่ 2.7% (คาดการณ์: 2.6%) อัตราเงินเฟ้อในราคาบริการ—ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ ECB จับตาดูอย่างใกล้ชิด—ยังคงสูงที่ 3.9%

ด้วยชุดรายงานเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งขนาดนี้ EUR/USD ได้เตรียมพร้อมที่จะทดสอบระดับ 1.0900 และอาจรวมตัวเหนือระดับนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าระมัดระวัง และเมื่อราคาขึ้นมาใกล้กับระดับ 1.0900 หลายคนเลือกที่จะรับกำไร ทำให้แรงขับเคลื่อนขาขึ้นถูกสกัดกั้น ผู้เข้าร่วมตลาดตอนนี้กำลังรอการเปิดเผยข้อมูล Nonfarm Payrolls ของสหรัฐสำหรับเดือนตุลาคม ซึ่งคาดไว้ที่จะออกมาในช่วงเริ่มต้นของเซสชั่นของอเมริกาในวันศุกร์

กลับไปที่ข้อมูลของยุโรป ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงอะไร? ส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาแสดงให้เห็นว่า ECB ไม่น่าจะดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธาน ECB Christine Lagarde พูดไว้ว่า การเคลื่อนไหวลักษณะนี้จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับเพิ่งเข้ามา เพียงหนึ่งวันก่อนการรายงานเงินเฟ้อ เธอระบุในสัมภาษณ์กับ Le Monde ว่าความระมัดระวังเป็นสิ่งที่จำเป็นเมื่อพิจารณาการลดอัตราดอกเบี้ย

ตอนนี้เกือบแน่นอนว่า ECB จะหลีกเลี่ยงการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง—อย่างน้อยก็ในการประชุมเดือนธันวาคม

ทำไม EUR/USD ถึงมีการตอบสนองอย่างระมัดระวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งนี้? ในมุมมองของฉัน มีหลายเหตุผล

ประการแรกมีสมดุลที่แข็งแกร่ง นั่นคือ ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐยืนอยู่ราว 104 ที่ได้รับการสนับสนุนจากรายงาน ADP ที่แข็งแกร่ง (มักจะเป็นตัวบ่งชี้ Nonfarm Payrolls ที่ดี) การเติบโตของ GDP ของสหรัฐในไตรมาสที่ 3 ที่แข็งแกร่งที่ 2.8% และข้อมูลตลาดแรงงานรายสัปดาห์สถานะบวกอย่างสม่ำเสมอ การขอรับสิทธิ์เบื้องต้นสำหรับการว่างงานลดลงในทิศทางเดียวกันเป็นสามสัปดาห์ติดต่อกัน มาอยู่ที่ 216,000 ซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมปีนี้

ประการที่สองมาจากความเสี่ยงทางการเมือง การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐเพียงไม่กี่วัน และยังไม่มีผู้นำที่ชัดเจน การแข่งขันอยู่ในสภาพที่แน่นบาง และการนำหน้าของ Harris หรือ Trump ในรัฐใด ๆ ยังอยู่ในช่วงที่ไม่แน่นอนทางสถิติ แม้ว่า Harris จะมีนโยบายที่คาดการณ์ได้ค่อนข้างดี การกลับมาของ Trump อาจสร้างความกังวลให้กับผู้เข้าร่วมตลาดหลายราย Trump ได้เปรียบเปรย EU ว่า "จีนย่อส่วน" ในแง่การค้า กระตุ้นให้บรัสเซลส์เตรียมพร้อมสำหรับสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้นกับสหรัฐ ขณะที่ Trump ได้คืนการขู่เรื่องภาษี 25% กับการส่งออกรถยนต์ยุโรป

ความเครียดโดยรวมในตลาดฟอเร็กซ์ไม่สนับสนุนการเติบโตของ EUR/USD ดังนั้น แม้จะมีรายงานเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งจากยุโรปในสัปดาห์นี้ คู่ EUR/USD ก็ค่อย ๆ เลื่อนลง หาก Nonfarm Payrolls ประจำเดือนตุลาคมออกมาช่วยดอลลาร์อีก ราคาก็อาจถอยไปถึงขอบล่างของช่วง 1.0800 ทดสอบระดับการสนับสนุนที่ 1.0800 (เส้น Bollinger Bands ด้านล่างในกราฟสี่ชั่วโมง) อย่างไรก็ตาม การเปิดตำแหน่งการซื้อขายก่อนการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่สำคัญของสหรัฐนั้นเป็นความเสี่ยง หากรายงานทำให้ผิดหวัง และลงมาในสี "แดง" ผู้ซื้อบางทีอาจดันคู่เงินไปถึงระดับ 1.0900 อีกครั้ง ดังนั้น ทุกสายตาอยู่ที่รายงาน Nonfarm Payrolls