เป็นวันที่สี่ติดต่อกันที่คู่สกุลเงิน EUR/USD มีแนวโน้มการซื้อขายที่เป็นขาลง โดยป้วนเปี้ยนอยู่เหนือระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 ปัจจัยหลักที่กดดันคู่สกุลเงินนี้มาจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐมีความแข็งแกร่งซึ่งยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงหลายเดือนเนื่องจากความคาดหวังของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน

Thomas Barkin ประธานธนาคารเฟดสาขาริชมอนด์ได้กล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุมแต่เส้นทางข้างหน้ายังคงไม่แน่นอน เขาได้เน้นถึงความสำคัญของข้อมูลเงินเฟ้อหลักในการกำหนดว่า เงินเฟ้อนั้นสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางหรือไม่ ในทำนองเดียวกัน Neel Kashkari ประธานธนาคารเฟดสาขามินนีอาโพลิสระบุว่า การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการประชุม FOMC ในเดือนธันวาคมอาจทำให้ธนาคารกลางหยุดการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเน้นถึงความสำคัญของรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐวันนี้

นอกจากนี้ สภาวะความเสี่ยงที่อ่อนลงยังคงสนับสนุนสถานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยของเงินดอลลาร์สหรัฐ ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นทางการเงินที่ไม่เพียงพอของจีน ผลกระทบทางเศรษฐกิจโลกที่อาจเกิดจากความตึงเครียดทางการค้า และการล่มสลายของรัฐบาลผสมของเยอรมัน ล้วนแต่สร้างความไม่แน่นอนในตลาด สิ่งนี้เป็นภาระต่อเงินยูโรทำให้การลดลงของคู่สกุลเงิน EUR/USD รุนแรงขึ้น

จากมุมมองพื้นฐาน ราคาสปอต EUR/USD เส้นทางที่มีความต้านทานน้อยที่สุดยังคงเป็นขาลง ทำให้คาดหวังถึงการลดลงต่อไปตั้งแต่หลังการเลือกตั้งสหรัฐ

ในมุมมองทางเทคนิค ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ในกราฟรายวัน ใกล้ถึงเขตที่ขายมากเกินไป ร่วมกับการที่คู่สกุลเงินไม่สามารถทะลุและยืดหยุ่นอยู่ได้ต่ำกว่าระดับสำคัญที่ 1.0600 จึงเป็นเหตุให้ฝั่งขายควรใช้ความระมัดระวัง แนวทางที่มีไหวพริบคือการรอให้มีการรวมตัวระยะสั้นหรือการตีกลับเล็กน้อยก่อนเตรียมการสำหรับการลดลงต่อ

ความพยายามใดที่จะเหนือการต่อต้านทันทีที่ 1.0625–1.0630 มีแนวโน้มจะพบอุปสรรคใกล้กับระดับสูงของเซสชั่นก่อนที่ประมาณ 1.0665 การซื้อเพิ่มเติมอาจดันคู่สกุลเงินสู่ระดับ 1.0700 อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวใดๆ เกินจุดนี้จะแนวโน้มว่าจะเป็นโอกาสการขาย ซึ่งถูกจำกัดอยู่ที่ระดับ $1.0770

ในทางกลับกัน หากมีการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่าระดับจิตวิทยาที่ 1.0600 อาจทำให้คู่เงิน EUR/USD ลดลงไปยังแนวรับระหว่างที่ 1.0565–1.0560 ไปจนถึงแนวรับจิตวิทยาที่สำคัญที่ 1.0500 แรงกดดันในการขายเพิ่มเติมอาจเร่งให้การลดลงเร็วขึ้น และอาจท้าทายจุดต่ำสุดประจำปีจากปี 2023 ได้