Joseph Safra (บราซิล)
กิจกรรม: เจ้าของร่วมของ Banco Safra
เสียชีวิต : 10 ธันวาคม 2563 อายุ 82 ปี
มูลค่าสุทธิเมื่อเสียชีวิต: 23.2 พันล้านดอลลาร์
คุณ Joseph Safra ถือเป็นนายธนาคารที่ร่ำรวยที่สุดในโลกไปตามหลัก เขาเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรการเงินขนาดใหญ่ที่เน้นไปยังลูกค้าที่มีฐานะร่ำรวย เขาเกิดในซีเรีย พ่อแม่ของเขาเป็นนายธนาคารชาวเลบานอนแต่ต่อมาพวกเขาย้ายไปบราซิลที่เขาและ Moses ผู้เป็นน้องชายของเขาได้ก่อตั้งธนาคารรายใหญ่เป็นอันดับแปดในประเทศนั่นคือ Banco Safra นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของธนาคาร J. Safra Sarasin ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เขาเข้ามาอยู่ในรายชื่อกลุ่มมหาเศรษฐีเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ในเวลานั้นทรัพย์สินของเขามีเพียง 3 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น คุณ Safra ไม่ค่อยออกสื่อและป้องกันชีวิตส่วนตัวและครอบครัวของเขาอย่างระมัดระวังจากการสอดรู้สอดเห็น

Lee Kun-hee (เกาหลีใต้)
กิจกรรม: Samsung Group CEO
เสียชีวิต : ตุลาคม 2563 อายุ 78 ปี
มูลค่าสุทธิเมื่อเสียชีวิต: 17.3 พันล้านดอลลาร์
หัวหน้าบริษัทอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดทิ้งอาณาจักรมหึมาที่มีสวนสนุก, บริการไอทีและการผลิตชิปคอมพิวเตอร์,ทีวีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อย่างไรก็ตามความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของเขาคือการสร้างสมาร์ทโฟนที่สามารถแข่งขันได้กับ Apple คุณ Lee เข้ารับกิจการ Samsung ในปี 1987 หลังจากการเสียชีวิตของบิดาผู้ก่อตั้งเครือบริษัททั้งหมด สิ่งที่สำคัญคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญทั้งหมดของบริษัทเกิดขึ้นเมื่อ Lee เข้ารับตำแหน่ง เขาใส่ใจในทุกผลิตภัณฑ์และควบคุมทุกขั้นตอนของการผลิต เขาประสานความเป็นผู้นำของ Samsung ในตลาดผ่านชิปหน่วยความจำในปี 1990, ทีวีจอแบนในช่วงกลางปี 2000 และสมาร์ทโฟนในปี 2010 ตั้งแต่ปี 2007 เจ้าของ Samsung ถือเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตามชีวิตของเขาไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่คิด ครั้งหนึ่งเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานให้สินบนและหลบเลี่ยงภาษี ถึงกระนั้นมหาเศรษฐียังได้รับการอภัยโทษจากความผิดทั้งสองครั้ง เขาประสบภาวะหัวใจวายในปี 2014 และเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ คุณ Jay Y. Lee ลูกชายของ Lee เป็นผู้บริหาร Samsung Group มาตั้งแต่ปี 2014

Whitney MacMillan สหรัฐอเมริกา
กิจกรรม: อดีต CEO ของ Cargill
เสียชีวิต : มีนาคม 2563 อายุ 90 ปี
มูลค่าสุทธิเมื่อเสียชีวิต: 5.1 พันล้านดอลลาร์
คุณ Whitney MacMillan เป็นคนที่น่าจับตามอง เขาเข้าร่วมกับบริษัทการเกษตร Cargill และเปลี่ยนเป็นองค์กรระดับโลก เขาใช้เวลา 44 ปีในเส้นทางอาชีพการทำงานในบริษัทครอบครัว ซึ่งกิจกรรมหลักเกี่ยวข้องกับการค้าธัญพืชเป็นหลัก เขาเข้ารับตำแหน่งซีอีโอและประธานคณะกรรมการในปี 1976 และเกษียณอายุในปี 1995 เมื่ออายุ 65 ปี อย่างไรก็ตามเขายังคงมีอิทธิพลต่อกิจกรรมของบริษัท เขาเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจเชิญกรรมการอิสระเข้าสู่การเป็นคณะกรรมการของบริษัทและสร้างโครงการหุ้นโดยที่พนักงานของบริษัทเป็นเจ้าของหุ้นของบริษัท ดังนั้นเขาจึงสามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและทำกำไรได้ ในปี 2019 บริษัทมีรายได้ 113.5 พันล้านดอลลาร์ ทุกวันนี้สมาชิกในครอบครัว MacMillan เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 88% ใน Cargill อย่างไรก็ตามคุณ Whitney MacMillan เป็นสมาชิกครอบครัวคนสุดท้ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดการของบริษัท

Randall Rollins สหรัฐอเมริกา
กิจกรรม: อดีต CEO ของ Rollins Inc.
เสียชีวิต : สิงหาคม 2563 อายุ 88 ปี
มูลค่าสุทธิเมื่อเสียชีวิต 4.7 พันล้านดอลลาร์
ทรัพย์สินของ Rollins เฉกเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในครอบครัวของเขาเกิดขึ้นจากการจัดตั้งอาณาจักรที่สวนทางกับเศรษฐกิจตกต่ำจากการกำจัดหนู,แมลงสาบ,เหา และบริษัทในเครือภายใต้การดูแลของ Rollins Inc ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในแอตแลนตา คุณ Randall เข้าร่วมธุรกิจครอบครัวในปี 1953 ก่อนหน้านั้นเขาพยายามจัดตั้งกิจการครอบครัวอื่นๆ นั่นคือสถานีวิทยุ เขาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทมาอย่างยาวนาน เคียงข้างกับพี่ชายของเขา Gary ซึ่งเป็นซีอี.โอในปี 2014 ครอบครัวมีความขัดแย้งที่รุนแรงเกี่ยวกับการจัดสรรเงินสดที่ส่งผลต่ออาณาจักรการควบคุมสัตว์ที่มีการรบกวน การเผชิญหน้าครั้งนี้กลายเป็น "หนึ่งในการต่อสู้ที่น่ารังเกียจที่สุดในบรรดาสมาชิกของ The Forbes 400" ความขัดแย้งสิ้นสุดลงเพียงห้าปีต่อมาเมื่อสมาชิกในครอบครัวบรรลุข้อตกลงในประเด็นข้อพิพาททั้งหมด

Sheldon Solow สหรัฐอเมริกา
กิจกรรม : ผู้ก่อตั้ง Solow Building Co
เสียชีวิต : พฤศจิกายน 2563 อายุ 92 ปี
มูลค่าสุทธิเมื่อเสียชีวิต: 4.4 พันล้านดอลลาร์
คุณ Sheldon Solow จะถูกจดจำในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของแมนฮัตตัน ในปี 1972 เขาตัดสินใจเสี่ยงทุกอย่างเมื่อเริ่มก่อสร้างอาคารสำนักงานบนถนน West 57th ปัจจุบันอาคารหลังนี้มีชื่อเสียงในด้านทัศนียภาพอันงดงามของเซ็นทรัลพาร์คและมีชื่ออันโดดเด่นว่า Solow Building.